หิ้งพระ ควรหันหน้าไปทางไหน ควรอยู่ตรงไหนของบ้าน (2567)

ความเชื่อของคนไทยที่ว่า การจัดห้องพระอย่างเหมาะสม จะทำให้บ้านอยู่เย็นเป็นสุข วันนี้ผมจะมาพูดถึง หิ้งพระ ควรหันหน้าไปทางไหน ควรอยู่ตรงไหนของบ้าน (2567) การวางหิ้งพระให้ถูกทิศทาง ถูกหลักตามฮวงจุ้ยแล้ว ยังจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสงบสุข การผสมผสานการวางหิ้งพระกับหลักของฮวงจุ้ย ยังสามารถส่งเสริมให้คนในบ้านมีบารมีและได้รับโชคลาภอีกด้วย

การมีห้องพระภายในบ้าน น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวพุทธทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทว่าในปัจจุบันหลายคนมักละเลยกับการจัดห้องพระ เช่น ในบางบ้านนำห้องพระ มาใช้เป็นห้องเก็บของ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมเท่าใดนักและการจัดห้องพระ ไม่ใช้แค่การตั้งที่บูชาพระเพียงอย่างเดียว เจ้าของบ้านควรคำนึงถึงตำแหน่งและขนาดของห้องพระ เพื่อให้สมาชิกภายในบ้าน สามารถใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้จิตใจผ่องใสและสงบนิ่งอย่างแท้จริง

• บทความที่เกี่ยวข้อง : ไม่ต้องพึ่งหมอดู! บ้านเลขที่มงคล อยู่แล้วรวย ดูเองได้เลย (2567)
• บทความที่เกี่ยวข้อง : เทคนิค การไหว้วันตรุษจีน 2567 วันที่เท่าไหร่ ต้องไหว้อย่างไร
• บทความที่เกี่ยวข้อง : ห้องนอนควรหันไปทางทิศไหนของบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย (2024)

การจัดหิ้งพระให้ถูกต้อง มีผลอย่างไรต่อการใช้ชีวิต

เรื่องของการตั้งโต๊ะหมู่บูชาหรือติดตั้งหิ้งพระในบ้าน การจัดหิ้งพระให้ถูกต้อง ถูกทิศทาง เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเรื่องหนึ่งเพราะใจนึงทุกคนก็อยากตั้งให้ถูกต้องตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวและครอบครัว แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำได้ตามความเชื่อที่ได้รับมา พอดีพอร้ายคิดไม่ตกเลือกไม่ได้ ทำให้ไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก

การหันทิศพระพุทธรูปบูชาว่าควรหันไปทิศไหน นั้นคิดว่าต้องมีเหตุและผล แต่บางครั้งการจะนั่งอธิบายว่าเป็นเพราะอย่างนั้น เพราะเป็นอย่างนี้ คนฟังอาจโต้เถียงกันได้ ทางที่ง่ายที่สุดคือ การอ้างว่าเป็นเรื่องของสิริมงคล จะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน เพราะความเชื่อ ถ้าเชื่อแล้วย่อมสบายใจ เมื่อทำตามนสิ่งที่อยากให้ปฏิบัติ (ผลรับที่ดี) ก็เลยกลายเป็นสบายใจไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าเรามาศึกษากันลึกลงไป (ตามหลัก ลมฟ้าอากาศ แสงแดด / การวางทิศทางตัวบ้าน ) จะพบความแยบยลในการสร้างความเชื่อเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานที่สร้างบ้านใหม่ ปลูกเรือนอยู่ได้อย่างมีความสุข ซึ่งก็ต้องเรียนตามตรงว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าท่านไม่เชื่อ เราก็ไม่อาจไม่ขวางท่านได้ แต่อย่างที่บอกไว้หลายครั้งว่า ความเชื่อในแต่ล่ะเรื่อง ถ้ามันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากต่อตัวเราและตัวคนอื่น หรือไม่ได้สร้างความไม่สบายใจให้ท่านมากขนาดนั้นล่ะก็ ทำเถอะครับ มันจะดีหรือไม่ดี ก็ไม่เป็นไร

การปลูกบ้าน ปลูกเรือน อย่าปลูกขวางตะวัน อันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ตามพื้นฐานว่า ในสมัยก่อนเมื่อสร้างบ้านใหม่ จะแนะนำให้ปลูกบ้านหันตัวบ้านแนวยาวไปทางทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ด้านกว้างของบ้านแผ่ขยายออก รับลมที่มาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งลดพื้นที่ถูกแดดในช่วงบ่ายเย็นให้มีขนาดพื้นที่น้อยสุด ซึ่งคนเฒ่าคนแก่รู้กันดีว่า พระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก โดยปีหนึ่งๆ นั้นแนวโคจรขึ้นลงจะเยื้องมาทางทิศใต้ปีละเก้าเดือน ด้านใต้จึงเป็นอีกด้านหนึ่งที่มีโอกาสรับแดดด้วย

และสุดท้ายถ้าวิเคราะห์กันให้ดีแล้ว ความร้อนน่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สัมพันธ์กับเรื่องหิ้งพระที่เรากำลังพูดถึง เพราะกิจกรรมหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชาก็คือ การเข้าไปกราบไหว้และสวดมนต์เพื่อให้เกิดความสงบทางใจเป็นการเพิ่มสิริมงคลให้กับตนเอง ซึ่งแน่นอนในขณะที่ไหว้พระสวดมนต์ก็คงต้องการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สบายในขณะทำกิจกรรม

หิ้งพระควรหันไปทางไหนให้ถูกฮวงจุ้ย

นอกจากการเลือกตำแหน่งของห้องพระภายในบ้านแล้ว การจัดวางสิ่งของภายในห้องพระ ยังสามารถใช้หลักของฮวงจุ้ย เพื่อเสริมให้บ้านที่อยู่อาศัย มีความสงบ ร่มเย็น รวมถึงเจ้าบ้านเอง อาจได้รับโชคลาภ หรือเจอพบแต่สิ่งดี ๆ ได้เช่นกัน การตั้งหิ้งพระยังมีความเชื่อผิดๆ อยู่ที่ว่าควรตั้งให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและห้ามหันไปทางทิศตะวันตก แต่ที่จริงแล้วทิศตะวันตกเป็นเพียงสิ่งที่คนไทยจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดไปด้วย เพราะกลัวคำว่า “ตก” เท่านั้นเอง แต่ทิศที่ดีสำหรับหิ้งพระคือทั้ง 8 ทิศ นั่นแหละ ที่จริงที่ไม่ได้มีข้อห้ามที่ห้ามคือทิศที่หันไปทางหลังบ้านเท่านั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหน้าบ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ แต่คุณตั้งหิ้งพระให้หันไปหาหลังบ้านซึ่งเป็นทิศเหนือ ลักษณะนี้ต่างหากที่ถือว่าเป็นทิศทางที่ไม่ถูกต้อง

ในหลายบ้านการมีห้องพระเป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงในหลายๆบ้านที่ใช้การติดตั้งหิ้งพระกับผนังบ้านแทนเพราะขนาดบ้านหรือพื้นที่ไม่เพียงพอ และด้วยความเชื่อความใส่ใจ การเลือกตำแหน่งและทิศติดตั้งหิ้งพระก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะเชื่อว่าจะเป็นมงคลและทำให้มีความสุขได้ วันนี้ สถาปนิก บ้าน บ้านได้นำทิศสุดปังสำหรับวางหิ้งพระมาฝากกัน จะมีทิศไหนบ้างไปดูกันเลย

1. ทิศตะวันออก

เป็นทิศแห่งราชา มีความเชื่อว่า จะช่วยเรื่องหน้าที่การงานให้เจ้าของบ้านและคนในครอบครัว การงานเจริญก้าวหน้าไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง

2. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

เป็นทิศของเศรษฐี มีความเชื่อว่า จะส่งเสริมให้มีความร่ำรวย มั่งคั่ง การประกอบการงานค้าขายรุ่งเรืองมากขึ้น

3. ทิศเหนือ

เป็นทิศทางสายกลาง มีความเชื่อว่า ชีวิตจะราบรื่น ไม่มีเรื่องให้กังวล ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย พบเจอแต่ความสุขไปตลอด

ทิศที่หลีกเลี่ยงและไม่ควรวางหิ้งพระ

1. ไม่ควรวางหิ้งพระทิศตะวันตก

ทิศที่เราควรหลีกเลี่ยงในการติดตั้งหิ้งพระ ไม่ควรวางหิ้งพระเลย นั้นคือ ทิศตะวันตก การวางหิ้งพระไปในทิศตะวันตกมีความเชื่อว่าจะทำให้เหนื่อย มีอุปสรรคมาขวางอย่างต่อเนื่องกว่าจะสำเร็จ

2. ไม่ควรติดตั้งหิ้งพระในทางเหนือประตู

การติดตั้งหิ้งพระในทางเหนือประตู มีความเชื่อว่าจะทำให้พลังงานที่ดีหลุดออกไปภายนอก

3. ไม่ควรติดตั้งหิ้งพระในบริเวณห้องน้ำ

การติดตั้งหิ้งพระในบริเวณห้องน้ำ มีความเชื่อว่า ห้องน้ำเป็นสถานที่ปลดทุกข์ไม่ควรนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปไว้ในบริเวณนั้น

พระพุทธรูปบูชา ควรจะหันหน้าไปทางทิศไหน

พระบูชาที่นิยมกัน ควรหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ถ้าหันไปทางทิศใต้ กับ ทิศตะวันตก เจ๊ง สตางค์ไม่เหลือใช้ เหตุผลอาจจะไม่แน่นอน ซึ่งรู้แต่ว่าสมัยหลวงพ่อปาน ใกล้ก่อนโน้น ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธรูปไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ ท่านบอกว่าควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือดีกว่า

6 หลักในการวางหิ้งพระ ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

1. ตำแหน่งหิ้งพระควรหันหน้าไปทางทิศเหนือ

เชื่อกันว่าทิศทางสวรรค์อยู่ด้านเหนือ ฉะนั้นหากคุณจะตั้งหิ้งพระหรือกำลังจะสร้างห้องพระก็ควรจัดให้อยู่ในทิศเหนือของห้องรับแขก หรือทางทิศเหนือของบ้าน โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถวางพระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ รวมทั้งกรอบรูปและยันต์ต่าง ๆ ได้หมดเลยนะครับ

2. หิ้งพระควรหันหน้าไปทางประตู

นอกจากควรจัดห้องพระหรือหันหิ้งพระไปทางทิศเหนือของบ้านแล้ว หิ้งพระและมุมไหว้พระของคุณควรอยู่ใกล้ประตูทางเข้าบ้าน โดยหันหน้าชนกับประตูบ้าน ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้วตำแหน่งนี้ถือว่ามีฤกษ์ดีและส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้บ้านได้มากที่สุด ไม่ว่าคุณเองหรือแขกที่เดินเข้าบ้านก็ต้องแสดงความศรัทธาหิ้งพระก่อนเป็นอันดับแรก อีกทั้งการวางตำแหน่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้บริเวณนี้ ยังเชื่อกันว่าจะช่วยปกปักรักษาคนในบ้านให้คลาดแคล้วจากอันตรายทั้งหลายได้ด้วย

3. ต้องอยู่สูงและสะอาดสะอ้าน

เมื่อตั้งใจอยากบูชาพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ในบ้านแล้ว คุณก็ควรแสดงความเคารพศรัทธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านอย่างเต็มที่ด้วย โดยควรจัดหิ้งพระให้อยู่สูงจากพื้นอย่างน้อย 5 ฟุต พร้อมกันนั้นก็ต้องหมั่นทำความสะอาดพระพุทธรูปและหิ้งพระเป็นประจำ ที่สำคัญควรจัดแต่งไฟวอร์มไวท์ติดไปสักหน่อย เพื่อให้มุมหิ้งพระดูสว่างไสวอยู่เสมอ

4. สถานที่จัดวางต้องโล่ง กว้าง และเหมาะสม

ส่วนมากแล้วถ้าเป็นหิ้งพระมักจะอยู่บริเวณโถงของบ้านหรือในห้องรับแขกที่มีพื้นที่โล่ง กว้าง เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของบ้านที่ทุกคนจะมารวมตัวกันอยู่บ่อย ๆ พลังงานที่วนเวียนอยู่ตรงนี้เลยต้องสะอาดและมีพลังด้านดีอยู่ค่อนข้างมากพอสมควร ดังนั้นเราจึงไม่ควรตั้งหิ้งพระในมุมอับหรือแอบอยู่ในห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้กระทั่งห้องนอน เพราะเป็นพื้นที่ที่อาจลดพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาได้

5. ไม่ควรวางตำแหน่งหิ้งพระหันหน้าเข้าบ้านไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป

เครื่องลางของขลัง ยันต์ รูปปั้น และสัญลักษณ์หรือตัวแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายถือว่ามีพลังในตัวเองอย่างแรงกล้า ฉะนั้นเราก็ควรจัดทิศทางการวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้หันหน้าออกไปเพื่อจะได้ฉายพลังงานด้านดีครอบคลุมพื้นที่บ้านทุกตารางนิ้ว แต่ถ้าหันหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในบ้าน หรือวางแอบอยู่หลังโต๊ะอาหาร โซฟา หรือปลายเตียง พลังงานในบ้านอาจตีกันให้วุ่นวาย ซึ่งหากต้องการแก้เคล็ดก็ทำได้ด้วยการหาฉากกั้นหรือปลูกต้นไม้เป็นฉากคั่นเอาไว้ก็ได้ครับ

6. หิ้งพระควรอยู่จุดศูนย์กลางของบ้าน

ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วจุดศูนย์กลางของบ้านจัดเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลกระทบถึงสุขภาพร่างกาย ความมั่งคั่ง และความสุขของผู้อยู่อาศัยภายใต้ชายคานั้น ๆ เราถึงได้แนะนำให้คุณตั้งหิ้งพระในจุดศูนย์กลางของบ้าน เช่น ห้องโถงหรือห้องรับแขกยังไงล่ะ

คำถามที่พบบ่อย FAQ

✅ สินค้าราคาโรงงาน ขาย ปลีก-ส่ง
✅ รับประกันคุณภาพสินค้าทุกชิ้น
✅ มีระบบผ่อนจ่าย ตามความสะดวกของลูกค้า
✅ สามารถผลิตในแบรนด์ของลูกค้าเองได้
✅ มีบริการจัดส่ง – ติดตั้ง ทั่วประเทศ
✅ สอบถาม-ปรึกษา(ฟรี)

สนใจดูตัวอย่างสินค้า/เป็นตัวแทนขาย
Inbox: m.me/CCTGROUPCompany
Email : [email protected]
Line: Lakkana99
โทร : 0816428556 (คุณลักขณา)
Website : https://www.cctgroup.co.th
Facebook : บัวเชิงผนัง พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยาง By CCT Group